ตุรกีขอรับบทไกล่เกลี่ยให้ยูเครนและรัสเซีย

วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan แห่งประเทศตุรกี ได้ออกมากล่าวว่า ตุรกีจะเป็นผู้เจรจาเอง เพื่อไกล่เกลี่ยความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน หลังจากรัสเซียยึดเรือของยูเครนจำนวน 3 ลำ ซึ่งขับเข้าเขตน่านน้ำ อันก่อให้เกิดวิกฤตความขัดแย้งครั้งใหม่ โดยพื้นฐานความสัมพันธ์ของตุรกีกับรัสเซียมีความมึนตึงกันมาอย่างยาวนาน หากแต่ความสัมพันธ์นี้เริ่มดีขึ้นมาตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2559 ในช่วงตุรกีเกิดปัญหากับชาติตะวันตก ก่อนจะหันมาจับมือกับรัสเซีย โดยตุรกีให้ความร่วมมือกับประเทศรัสเซียในปมความขัดแย้ง ที่ซีเรียได้จัดซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศชั้นสูงจากรัสเซียด้วย ในขณะเดียวกันประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์กับยูเครนเสมอมา ประธานาธิบดี Recep Tayyip Erdogan กล่าวกับผู้สื่อข่าว ณ ท่าอากาศยาน İstanbul ก่อนที่จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G 20 ณ Argentina ว่า ตุรกีพร้อมทำหน้าที่ผู้ไกล่เกลี่ยให้กับทั้ง 2 ฝ่าย ถ้อยแถลงการณ์ของผู้นำตุรกีเกิดขึ้นภายหลังจากมีการเจรจาทางโทรศัพท์ โดยผู้นำตุรกีได้ปรึกษาปัญหากับประธานาธิบดี Vladimir Vladimirovich Putin ของรัสเซีย และประธานาธิบดี Petro Poroshenko แห่งยูเครน รวมทั้งประธานาธิบดี Donald  Trump ผู้นำแห่งสหรัฐ

การเผชิญหน้าทางทะเลครั้งร้ายแรงในรอบ 4 ปี

เหตุปะทะทางทะเลอันสุดร้ายแรงนี้เกิดขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ได้เข้ามายกระดับความตึงเครียดในภูมิภาค อันสืบเนื่องมาจากการที่รัสเซียต้องการควบรวมดินแดน Crimea ในปี ค.ศ. 2014 โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ยูเครน อ้างว่าได้ส่งเรือปืนหุ้มเกราะจำนวน 2 ลำ และเรือลากจูงอีก 1 ลำ ก่อนที่จะออกเดินทางมาจากเมือง Odessa หากแต่เรือของกองทัพรัสเซียได้เข้ามาขัดขวาง อีกทั้งยังพุ่งเข้าชนเรือของยูเครนเข้าอย่างจัง

โดยทางด้านรัสเซียออกมากล่าวหาว่ายูเครน ว่าได้ล่วงล้ำน่านน้ำอันเป็นเขตแดนของตน ซึ่งมีการนำเรือบรรทุกน้ำมันของรัสเซียมาจอดขวางช่องแคบ Keric บริเวณใต้สะพานเชื่อมระหว่างรัสเซียกับไครเมีย ในขณะที่กองเรือของยูเครนกำลังเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีการระดมเครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์ให้มาบินวนอยู่เหนือจุดนี้ด้วย

การที่รัสเซียออกมาปิดกั้นทางเข้าทะเล Aloft ซึ่งทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความจึงเครียดที่มากขึ้นมากขึ้นทุกขณะ จนในที่สุดรัสเซียได้ยิงใส่เรือของยูเครน พร้อมเข้ายึดเรือทั้ง 3 ลำ ลูกเรือชาวยูเครนจำนวน 6 คนได้รับบาดเจ็บอย่างแวนสาหัส

แต่ทางยูเครนได้ออกมายืนยันว่าได้แจ้งเรื่องให้ทางรัสเซียทราบก่อนแล้ว แต่ทางรัสเซียเองก็ออกมาปฏิเสธว่าตนไม่ได้รับแจ้งใดๆ อีกทั้งยังกล่าวหาว่าปฏิบัติการเดินเรือของยูเครน มีหน่วยตำรวจความมั่นคง ซึ่งคล้ายกับหน่วย KGB อยู่เบื้องหลัง แต่ถึงกระนั้นก็มีรายงานว่าเรือของยูเครน 2 ลำ ได้ล่องผ่านช่องแคบนี้ไปเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน แต่ก็ไม่มีปัญหากับรัสเซียแต่อย่างใด